ถ้าเราจะพูดถึงเรื่องของการสนใจที่จะเลี้ยงกุ้งเครฟิช มันมีหลักการที่มีความคล้ายกับการเลี้ยงกุ้งสายพันธุ์อื่น ซึ่งดัดแปลงมาจากอุปนิสัยและความเป็นอยู่ของตัวมันเอง โดยธรรมชาติ กุ้งหลายชนิดส่วนมากนั้นชอบออกหากินในช่วงกลางคืน และไม่ชอบแสงสว่าง ซึ่งถ้าเป็นตอนกลางวันกุ้งเหล่านี้จะหลับตลอดตอนกลางวันแล้วค่อยออกหากินตอนกลางคืน เราจึงต้องมีที่หลบซ่อนและปิดบังจุดที่กุ้งจะหลบหนีได้ ยกเว้นแต่กุ้งที่ได้รับการเพาะเลี้ยงในบ้านเราจะคุ้นเคยกับการเลี้ยง และฝึกอาหารมีก้ามเป็นอาวุธเอาไว้เพื่อต่อสู้ช่วยเหลือตัวเองและป้องกันตัวเอง และกุ้งตัวผู้นั้นจะมีก้ามที่ใหญ่และสวยงามกว่าตัวเมียการเลี้ยงกุ้งเครฟิช นั้นเราสามารถเลี้ยงในภาชนะแบบใดก็ได้ที่สามารถเปลี่ยนน้ำได้ง่าย และน้ำควรที่จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 23 – 28 องศา และถ้าหากเราเลี้ยงหลายๆตัวสถานที่เลี้ยงจะต้องมีพื้นที่ที่กว้างอย่างเหมาะสม เพราะกุ้งเครฟิชนั้นจะโตขึ้นโดยมีขนาด 3 – 4 นิ้ว อาจจะต้องใช้พื้นที่อย่างน้อย 1 ฟุต ควรเลี้ยงกุ้งที่มีขนาดเท่าๆ กัน เพราถ้าเลี้ยงกุ้งหลายๆ ตัวแต่ขนาดนั้นไม่เท่ากัน กุ้งตัวที่เล็กกว่านั้นอาจจะโดนรังแกได้
1.กุ้งเครฟิช นั้นจะมีก้ามของมันเป็นอาวุธป้องกันตัว ตัวผู้ที่โตพอสมควรแล้วจะมีก้ามที่ใหญ่และโตเพื่อเอาไว้อวดตัวเมีย แถมมันยังมีสีสันที่สวยงามมากกว่าตัวเมียแบบชัดเจน และความอ่อนแอของกุ้งเครฟิชหรือกุ้งทุกชนิดนั่นก็คือ การลอกคราบ จึงไม่แนะนำให้เลี้ยงกุ้งหลายๆ ตัวไว้ในที่ที่แคบมากนัก เพราะกุ้งที่อ่อนแอเพราะการลอกคราบตัวที่ยังไม่ลอกคราบจะเข้ามารังแกตัวที่อ่อนแออยู่ ผู้เพาะเลี้ยงควรเปลี่ยนน้ำสัปดาห์ละครั้ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยง และการให้อาหารที่สร้างความสกปรกให้กับน้ำ เพราะอาหารกุ้งเป็นอาหารจม และกุ้งนั้นปากมีขนาดที่เล็กมีมันจะไม่สามารถกินได้ทั้งเม็ด มันจะค่อยๆ เล็ม และช่วงที่มันกัด เล็ม อาหารนี่แหละอาจจะทำให้เศษอาหารนั้นหลงเหลืออยู่และอาจจะทำให้เป็นฝุ่นๆ หรือเวลาที่กุ้งนั้นว่ายเร็วอาจจะตีเศษอาหารให้ฟุ้ง และผลที่ตามมาก็คืออาจจะทำให้น้ำนั้นขุ่นง่ายอีกด้วย แต่ถ้าเราให้อาหารที่พอดีกับตัวกุ้งไม่เยอะมากเกินไป และหมั่นเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ อาทิตย์ละ 1 ครั้งก็พอ เท่านี้น้ำก็จะคงสภาพและสะอาดอยู่เสมอวัสดุปูรองพื้นในตู้ที่เลี้ยงกุ้ง เพื่อความสวยงามเราจะต้องนำหินกรวดขนาดเล็กๆปูพื้นในตู้ให้สวยงาม ซึ่งการปูพื้นด้วยหินกรวดนั้นมีประโยชน์กับกุ้งมากหลายอย่างก็คือจะช่วยให้กุ้งนั้นไม่ตกใจ และทำให้โดยรวมของกุ้งนั้นมีสีสันสวยงามมากขึ้น เมื่อกุ้งนั้นยืนอยู่กับพื้นหินกรวดที่เราปูไว้ และจะทำให้กุ้งนั้นมีสีที่เข้มขึ้นด้วยนิสัยของกุ้งแล้วจะชอบขุดหินกรวด เพื่อหลบซ่อนตัว ไม่ว่าจะนอนหรือในช่วงที่มันนั้นลอกคราบ หินกรวดก็ถือว่าเป็นการพรางตัวของมันอย่างหนึ่งหินกรวดนั้นมีประโยชน์อีกอย่างก็คือช่วยดูดซับตะกอนหรือเศษอาหารที่กุ้งเคยกัดแทะไปแล้ว และไม่ทำให้น้ำขุ่นง่าย เพราะหินกรวดจะบดบังเวลาที่กุ้งว่ายน้ำแล้วทำให้ฝุ่นทั้งขี้หรือการกินอาหารเหลือเป็นเศษๆทำให้มันไม่ฟุ้ง อาจจะมีฟุ้งบ้างถ้าหากมีหลายๆ ตัวดีดตัวเองพร้อมๆ กันแต่จะมีโอกาสที่มันจะฟุ้งน้อยกว่าไม่มีหินกรวด
2.อาหารการกิน จริงๆแล้วกุ้งเครฟิชนั้นสามารถกินอาหารได้ทุกชนิด และกุ้งนั้นสามารถกินอาหารได้ตลอดทั้งวัน แต่ปกติธรรมชาติของมันจะชอบกินอาหารประเภทพืชผัก รากไม้ ใบไม้ และผลไม้เป็นหลัก ผู้เลี้ยงนั้นสามารถเอา ข้าวโพด มันฝรั่ง หรือถั่ว ผลไม้ก็อย่างเช่นแอปเปิ้ล หรือไม่ก็อาจจะเป็นพรรณไม้น้ำต่างๆ ที่เราใช้ตกแต่งตู้ อาจจะโดนกุ้งกัดกินเป็นอาหารได้ และสุดท้าย อาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อปลา หรืออาจจะเป็นเพื่อนคนละตระกูลอย่างกุ้งฝอย ก็สามารถกินได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็นจำพวกเนื้อสัตว์ ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แต่ถ้าจะให้ง่ายที่สุด อาหารเม็ดชนิดจมสูตรใดก็ได้
วิธีเลือกซื้อกุ้งเครฟิช
1.ควรเลือกกุ้งที่มีอวัยวะสำคัญต่างๆ ครบถ้วน และสมบูรณ์ และที่สำคัญ ดวงตาของกุ้งทั้งคู่ ขาครบทั้ง 4 คู่
2.เลือกตัวที่มีเปลือกลำตัวที่แข็ง และไม่ควรเลือกกุ้งที่อยู่ในช่วงที่มันลอกคราบ เพราะการที่เราเอามาอาจจะทำให้ตายง่ายได้เพราะช่วงที่กุ้งลอกคราบนั้น จะเป็นช่วงที่กุ้งนั้นอ่อนแอที่สุด
3.สังเกตความแข็งแรงของกุ้งที่จะเลือกมาเลี้ยง มีการปกป้องตัวเองอย่างรวดเร็ว การตอบสนองดี สังเกตุง่ายอีกอย่างหนึ่งคือการยกก้ามขึ้นป้องกันตัวมันเอง หรือหารหลบหนีด้วยการดีดตัวอย่างรวดเร็ว
4.เลือกร้านที่เราซื้อกุ้งที่มีคุณภาพหรือฟาร์มที่เราสามารถไว้ใจได้ สังเกตุได้จากสภาพน้ำหรือภาชนะที่ใส่กุ้งเพื่อวางขาย
5.ในกรณีที่กุ้งเรานำเข้ามาจากต่างประเทศ ควรได้รับการปรับสภาพน้ำ ควรที่จะพักน้ำแล้วเปลี่ยนถ่ายน้ำเก่าออกอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ขึ้นไป