กุ้งเชอรี่

มาทำความรู้จัก กุ้งเชอรี่เลี้ยงยังไง มาดูกัน

The Cherry Shrimp หรือที่เรียกกันติดปากว่า “กุ้งเชอรี่” เป็นกุ้งน้ำจืดแคระที่มีถิ่นกำเนิดในไต้หวัน อยู่ในตระกูล Atyidae ซึ่งเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ประกอบไปด้วยกุ้งมากกว่า 20 สายพันธุ์ มันเป็นกุ้งน้ำจืดที่ค่อนข้างรักสงบ เป็นรู้กันดีว่ามันกินชอบกินตะไคร่น้ำด้วย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือนักเลี้ยงที่มีประสบการณ์ เพราะเป็นกุ้งที่ทนเลี้ยงดูง่าย พวกมันจะเพิ่มสีสันให้กับตู้ปลาในบ้านได้เป็นอย่างดี ด้วยค่าบำรุงรักษาที่น้อยมาก ทำให้เป็นที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย

ที่น่าสนใจในคือเราจะพบพวกมันในป่าได้หลายสี แต่ในตู้ปลาคุณจะพบพวกมันเป็นสีแดงเท่านั้น สีแดงเข้มของมันเกิดจากการคัดเลือกสายพันธุ์เป็นเวลาหลายปี ในความเป็นจริงพวกเขาจะให้คะแนนคามความเงาและความเข้มของสีแดง โดยปกติแล้วกุ้งเชอรี่จะมีอายุขัยอยู่ประมาณ 1 – 2 ปี เท่านั้น สำหรับคนที่สงสัยว่ามันกินอะไรเป็นอาหาร หรือมีวิธีเลี้ยงดูอย่างไร ลองดูเทคนิคได้จากด้านล่างนี้

การให้อาหารกุ้งเชอรี่

ตามธรรมชาติพวกมันเป็นนักกินของเหลือ มันจะกินทุกอย่างที่หาเจอตามแหล่งน้ำ ดังนั้นจึงเป็นสัตว์ประเภท “omnivores” หมายความว่ากินได้ทั้ง พืช และ เนื้อ โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในรูปของสาหร่ายและสิ่งมีชีวิตเล็กๆ แต่สำหรับคนที่เลี้ยงทั่วไปสามารถใช้อาหารเม็ดคุณภาพสูง เพื่อใช้บำรุงสุขภาพให้สีสันสวยงาม โดยสามารถเลือกหาซื้อได้หลากหลายแบรนด์ในตลาด นอกจากนี้ยังอาจหาอาหารเสริมเพิ่มเติมให้พวกมันด้วย เช่น เนื้อแช่แข็ง หรือ ผัก

หากวางแผนเลี้ยงด้วยผัก จำเป็นจำต้องนำผักไปต้มหรือลวกก่อน ยกตัวอย่างเช่น  ผักโขม แครอท ผักกาด แตงกวา ฯลฯ จำไว้ว่ามันมีขนาดตัวที่เล็กมาก และไม่ต้องการอาหารมากมาย ดังนั้นทำไว้แค่ให้พอดี หรือจะเลี้ยงด้วยสาหร่าย ซึ่งอย่างที่เราบอกตอนแรกว่ามันโปรดปรานเป็นอย่างมาก พวกมันกินตะไคร่น้ำได้ทุกชนิดที่อยู่ในตู้ปลาของคุณ ทำให้มันเป็นนักทำความสะอาดชั้นดี แม้ว่ามันจะไม่ได้กินเหมือนกับปลาขนาดใหญ่ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยทำความสะอาดกระจกตู้ปลาได้

คำแนะนำในการเลี้ยง

ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังตัวนี้ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามากนัก อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่คุณควรระวังคือมันไวต่อทองแดงอย่างไม่น่าเชื่อ ทองแดงสามารถพบได้ในยา และอาหารปลาจำนวนมากดังนั้นควรตรวจสอบฉลากให้ดีก่อนใส่ลงไปในน้ำ อีกอย่างหนึ่งคือเมื่อพวกมันเติบโตขึ้น พวกมันจะเริ่มลอกคราบ อย่าเผลอไปเอาพวกมันออกมาจากตู้ เพราะกุ้งจะกินคราบที่พวกมันลอกเข้าไปใหม่ เพื่อเติมเต็มแร่ธาตุของพวกมันอีกครั้ง

มาถึงข้อสุดท้ายที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการดูแลพวกมัน ก็คือพวกมันไวต่อแอมโมเนียสุดๆ ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณสมบัติของน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมตลอดเวลา สำหรับคนที่กำลังจะเริ่มหามาเลี้ยง ขอแนนำให้เลี้ยงเป็นสายพันธุ์เดียวใน 1 ตู้ อย่างน้อย 10 ตัว สิ่งนี้จะช่วยจำกัดพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ยิ่งกลุ่มมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น และคุณจะได้เห็นพฤติกรรมที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น

ระดับน้ำในตู้จำเป็นต้องใช้ 1 แกลลอนต่อกุ้ง 2 – 5 ตัว เราไม่จำเป็นต้องปรับสภาพแวดล้อมใดๆ เพราะพวกมันสามารถอยู่อาศัยได้เกือบทุกสภาพแวดล้อม ทำให้หลายคนถึงบอกว่าเป็นกุ้งที่ทนมาก ในแง่ของอัตราส่วนตัวผู้ต่อตัวเมีย ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้มากนัก ขออย่างเดียวคือให้ตัวเมียมากกว่าตัวผู้ก็พอ เราหวังว่าเคล็ดลับที่ได้นำมาฝากในวันนี้จะมีประโยชน์กับคนที่สนใจเลี้ยงกุ้งไม่มากก็น้อย พวกมันเป็นสัตว์ที่น่าทึ่ง มีสีสันสดใจ แถมยังทรหดอย่างมาก ถ้าเบื่อเลี้ยงปลาแล้ว ลองหันมาเลี้ยงกุ้งเชอรี่กันดูแทนก็ได้ครับ